วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

แต๊งค์ กิ้ว เบอร์บาตอฟ

แดงเดือดขบวนที่เพิ่งผ่านพ้นไปในวันที่ 19 กรกฎาคม ถือเป็นเกมที่ สนุกสนาน ตื่นเต้ลส์น่าดูมากๆครับ (สำหรับเด็กผี) แถมมันมีเรื่องราวให้พูดถึงอย่างสนุก รู ปากอีกหลายเรื่องต่อหลายเรื่องเชียวนะครับ
แต่วันนี้ขอเถอะครับ ผมไม่อยากเอ่ยถึงเกมนั้นสักเท่าไหร่ (แบบว่า สงสารเด็กหง อ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า) จึงอยากจะเอ่ยถึงเรื่องอื่นแทน
แต่มันก็ยังอยู่แถวๆแดงแดดน่ะแหล่ะครับ
ครับ ผมกำลังจะเขียน ถึงนักเตะ นาม ดิมิทาร์ เบอบาตอฟ


ก่อนจะปิดตลาดซื้อขายนักเตะตอนเดือน สิงหาคม ปี 2008 แมนฯยูฯ ลงทุนทุบกระปุกออมสินที่ นาย เกลเซอร์ ยักยอกเงินจากสโมสรไป เอาเงิน ออกมาประมาณ 30 ล้านปอนด์ เพื่อมา ชื้อ สากกะเบือ 1 ดุ้น นามว่า "ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ"

ในตอนแรกที่มาถึงเขาไม่ได้เป็นสากกะเบือนะครับ เขา เดินเข้ามาในสโมสรเหมือนคนทั่วๆไปน่ะแหล่ะครับ แถมไม่พอ ถูกตั้งความหวังว่าจะเป็น เอริก คันโตน่า คนใหม่ บ้างก็ว่า แมนฯยูฯ ได้ จิ๊กซอร์ ตัวสุดท้าย บ้างก็ว่า รูนี่ย์ กับ เบิร์บจะผนึกกำลังกันทำลายล้างคู่แข่ง แต่ไฉนเลยพอฤดูกาลเริ่มเตะไปได้สักพัก เขากลับกลายเป็นสากกะเบือดุ้นเบ่อเริ่ม เดินในลานจอดหญ้าที่โรงละครแห่งความฝัน

ไม่ทราบว่า เฟอร์กี้อยากจะตำส้มตำให้เมียกินรึเปล่า ถึงเอาใจด้วยการชื้อ สากกะเบือ แพงบรรลัยขนาดนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า

อาจเป็นเพราะว่าความหวังที่มีมากเกินกว่าที่คนๆนึงจะรับไหวหรือไงไม่ทราบครับ ทำให้เบิร์บโชว์ฟอร์มเหมือนที่เคยผลิตให้กับสเปอร์ไม่ออกเลย

ตอนแรกๆก็ดีแหล่ะครับ ทำท่าจะปรับตัวได้ ทำท่าจะเล่นดี พอไปๆมาๆสักพัก สากกะเบือเริ่มเข้าสิง เล่นไม่ออกซะงั้น พลาดง่ายๆมั้ง จ่ายบอลเสียมั้ง เลี้ยงลูกขัดใจแม่ยกตลอด และที่สำคัญ แม่งโครตขี้เกียจ ราวกับว่า ฟุตบอลเตะกัน 3 ชั่วโมง ต้องออมแรงไว้วิ่งตอนท้ายๆยังไงยังงั้น

เบ็ดเสร็จฤดูกาลนั้น (ถ้าผมจำไม่พิด) เบิร์บยิงไปทั้งสิ้น 12 ประตู มันจะไม่น่าเกลียจเลยครับ หากมันเกิดกับ กองหน้าที่มีราคาแค่ราว 5-6 ล้านปอนด์ และอยู่ในทีมที่เพื่อนร่วมทีมยังชั้นไม่ถึง แต่นี่ไม่ใช่นะครับ เหตมันบังเกิดกับทีมระดับป๋าอย่าง แมนฯยูฯ แถมนักเตะค่าตัวระดับเหยียบ 30ล้าน ปอนด์

12 ประตู ตลอดทั้งฤดูกาล ในทีมแมนฯยูฯถือว่าสอบตกโดยสิ้นเชิง แบบไม่ต้องมีสอบซ่อมเลยครับ สำหรับกองหน้านักดูด(บุหรี่)คนนี้

ว่าแล้วจากความคาดหวังตอนต้นฤดูกาลกลับกลายเป็นความหดหู่ใจในท้ายฤดูกาลแทน

ช่วงปิดฤดูกาลมีข่าวมากมายเหวือเกินว่า เบิร์บ จะออกจากถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด

แม้กระทั่ง โพลสำรวจของสำนักงานและวิจัยจิตรโภชนา ยังออกมาเลยครับว่า เบิร์บ ย๊ายแน่นอน

แฟนผีหลายคนก็ขอให้เป็นเช่นนั้น

แต่เหตอันใดใครจะรู้ได้ ป๋าเฟอร์กี้ ดัน เก็บสากกะเบือนานเบอร์บาตอฟไว้ในถิ่นผี 3 ง่าม ต่อไป ราวไม่สะทกสะท้านต่อเสียงของโพลสำรวจของสำนักงานและวิจัยจีตรโภชนา จนเด็กผีแถวสำนักงานฯหลายคนต่างบ่นกันเป็นเสียงเดียวกันว่า "เก็บไว้ทำเชี่ยอะไรว้า?"

แต่แล้ว ทันทีที่ฤดูกาลใหม่มาถึง เหตผลกลใดไม่ทราบบครับ เบอร์บาตอฟ เล่นราวกับว่า กลับชาติมาเกิดใหม่ด้วยฟอร์มบรรลัยกัลย์ ระดับ 5 ดาว ยิงประตูคู่ยิงเป็นระนาว

3 ลูกในนั้น บังเกิดตอนที่เผชิญหน้ากับคู่แข่งตลอดกาล (ตัวเต็งยูโรป้าฯ ฮ่าฮ่าฮ่า) อย่าง หงษ์แดง ลิเวอร์พูล รู้นะว่านายเจ็บ

โดยเฉพาะ ลูกที่ 2 ที่ยิงได้ ขอบอกว่าสวยงามลากใส้มากจนขนาดเรียกเสียงอุทานฯ "ฮวยบ่ข่วย" จากเด็กหงษ์ เป็นแถวๆ (อนึ่ง "ฮวยบ่ข่วย" หมายถึงขั้นกว่า ของคำว่า "หัวควย" ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกที่ และเป็นคำด่าที่ค่อนข้างจะสุภาพกว่า "หัวควย" มากครับ อันนี้คนเขียน พูดติดปาก เลยเอามาเขียนไว้)

จากสากกะเบือฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้ เบอร์บาตอฟกลายเป็น "สากกะเบือติดปีก" ไม่ว่าตำส้มตำครกไหนก็อร่อยเหาะสำหรับเด็กผี

ว่าแล้วก็ ขอบคุณ ป๋า เป็นอย่างมากนะครับ เป็นอีกครั้งที่ ป๋า มองข้าม ช็อต เก็บเบอร์บาตอฟ ไว้กับทีมต่อไปจนเขาพิสูจน์ให้เห็นถึง เซนส์ ฟุตบอลอันยอดเยี่ยมของเขา แต่ยังเพิ่งดีใจนะครับ ถ้าฟอร์มของเบอร์บาตอฟ เป็นอย่างงี้ตลอดฤดูกาล (และพ่วงฤดูกาลหน้าด้วย) ค่อยดีใจกัน ตอนนี้ผมรู้แต่ว่า ถ้าเราขายเขาไปตอนปิดฤดูกาล ตอนนี้ผีแดงอาจจะแพ้หงษ์แดงไปแล้วก็ได้

ถ้าไม่มีคนๆนี้ที่ได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมทช์ นามว่า

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ